ผลประโยชน์เพิ่มเติม (เลือกซื้อ) |
เบี้ยประกันภัยรายปี/ คน |
แผน 1 |
แผน 2 |
แผน 3 |
แผน 4 |
แผน 5 |
แผน 6 |
การรักษาพยาบาลที่ไม่ได้อยู่รักษาตัวในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยนอก) |
2,105 |
3,368 |
4,210 |
5,052 |
6,315 |
8,420 |
ผลประโยชน์การรักษาทางด้านทันตกรรม |
1,771 |
2,362 |
2,952 |
3,543 |
4,133 |
4,723 |
คุณสมบัติของกลุ่มที่มีสิทธิสมัครเอาประกันภัย
- ธุรกิจที่มีจำนวนพนักงานประจำ 5-19 คน
- ผลประโยชน์การประกันภัยจะให้ความคุ้มครองแก่พนักงานที่มีอายุ 18-64 ปี ซึ่งปฏิบัติงานเต็มเวลาในวันที่เริ่มมีผลบังคับ
- อายุเฉลี่ยของพนักงานทั้งหมดจะต้องไม่เกิน 45 ปี
- ผลประโยชน์การประกันภัยจะให้ความคุ้มครองแก่ธุรกิจที่มีความเสี่ยงไม่เกินระดับอาชีพขั้น 2
หลักเกณฑ์การเข้าร่วมเป็นสมาชิก
- พนักงานทั้งหมดจะต้องเข้าร่วมทำประกันภัย
- พนักงานที่มีสิทธิ์เอาประกันภัยทั้งหมดจะต้องกรอกใบสมัครประกันภัยกลุ่ม แบบมีคำถามเกี่ยวกับประวัติสุขภาพ
- วันที่เริ่มมีผลบังคับตามกรมธรรม์ประกันภัยจะเป็นวันถัดไป หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับเอกสารประกอบการสมัครครบถ้วนและอนุมัติการรับประกันภัยแล้ว
- กรณีที่มีพนักงานเข้าร่วมทำประกันภัยระหว่างปีกรมธรรม์ วันที่เริ่มมีผลบังคับตามกรมธรรม์ประกันภัยจะเป็นวันที่ 1 ของเดือนถัดไป
การเลือกแผนประกัน
- พนักงานที่มีสิทธิ์เอาประกันภัยและอยู่ในตำแหน่งงานเดียวกัน จะต้องสมัครทำประกันภัยแบบแผนเดียวกัน
- ผลประโยชน์ความคุ้มครองการประกันอุบัติเหตุกลุ่มและการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลผู้ป่วยใน เป็นผลประโยชน์บังคับที่ต้องสมัครทำประกันภัย
- 1 กรมธรรม์สามารถประกอบด้วยแผนประกันไม่เกินกว่า 3 แผน (กำหนดได้สูงสุด 3 แผนต่อ 1 กรมธรรม์)
- ความแตกต่างระหว่างแผนประกันจะต้องไม่เกินกว่า 3 ระดับแผน
ตัวอย่าง กรณีที่เลือกแผนประกันภัยที่ 1 เป็นแผนประกันภัยต่ำสุด ดังนั้นแผนประกันสูงกว่าที่สามารถเลือกได้ถัดไป คือ แผนประกันภัยที่ 4
- ผลประโยชน์ผู้ป่วยนอกและทันตกรรมสามารถเลือกซื้อได้ ซึ่งพนักงานในแผนเดียวกันจะต้องซื้อทุกคน
- สามารถเลือกซื้อผลประโยชน์ผู้ป่วยนอกเพิ่มเติมได้ โดยแผนประกันภัยที่เลือกซื้อต้องไม่เกินทุนประกันภัยค่าห้องผู้ป่วยปกติ
- สามารถเลือกซื้อผลประโยชน์ทันตกรรมเพิ่มเติมได้ โดยลำดับแผนประกันภัยที่เลือกซื้อต้องต่ำกว่าหรือเท่ากับลำดับแผนประกันภัยหลัก
เอกสารประกอบการสมัคร
กรณีนายจ้าง
1. ใบคำขอเอาประกันภัยสำหรับผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัย
2. สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ. 20 (ถ้ามี) พร้อมผู้มีอำนาจลงนามเซ็นต์รับรองสำเนา
3. สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนที่นายทะเบียนออกให้ไม่เกิน 6 เดือน (มีการแสดงประเภทกิจการและวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการ)
พร้อมผู้มีอำนาจลงนามเซ็นต์รับรองสำเนา
4. สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ พร้อมเซ็นต์รับรองสำเนา
5. รายชื่อพนักงานที่สมัครทำประกัน โดยมีข้อมูล ชื่อ-สกุล, วัน/เดือน/ปีเกิด, เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน, ตำแหน่งงาน, แผนประกันที่เลือก พร้อมไฟล์ข้อมูล Excel File
กรณีต้องการให้จ่ายเคลมสินไหมค่ารักษาพยาบาลผ่านบัญชีธนาคาร จะต้องระบุรายละเอียดธนาคาร และหมายเลขบัญชีธนาคารของพนักงานแต่ละท่านด้วย
กรณีพนักงาน
1. ใบสมัครประกันภัยกลุ่มสำหรับผู้เอาประกันภัย (แบบมีคำถามเกี่ยวกับประวัติสุขภาพ)